← Home

หนึ่งปีที่ผ่านมาใน Netherlands

เขียนสั้นๆ ไปแล้วรอบแล้วคิดว่ามาเขียนเพิ่มแบบยาวหน่อยว่าปีที่ผ่านมาทำอะไรมาบ้างหลังจากย้ายมาอยู่ Netherlands มีหลายอย่างที่ชอบ และไม่ชอบ และก็หลายอย่างต่างจากที่คิดพอสมควร

สภาพอากาศ #

ก่อนมาก็คิดว่าที่นี่จะหนาว แต่ไม่คิดว่าหน้าดอกไม้ผลิจะยังหนาวอยู่ และหนาวกว่าที่คิดเพราะช่วงต้นเมษายนที่เป็นหน้าร้อนของไทยแล้ว ที่นี่ยังมีหิมะตกอยู่ (อย่างน้อยก็วันนึงหลังจากที่พึ่งมาเดือนแรก) และเคยคิดว่าหิมะตกมันก็คงไม่ลำบากอะไร แต่ที่นี่มันตกไม่เยอะแต่ทางเดินเท้าเหมือนมีน้ำแข็งบางๆ แปะไว้แล้วเดินลำบากมาก เหมือนจะลื่นตลอดเวลา

แต่พอถึงหน้าร้อนจริงๆ ประมาณเดือนมิถุนายน ก็ไม่ร้อนมากเหมือนที่ไทยหรือสิงคโปร์ อุณหภูมิประมาณ 20℃ ปลายๆ ซะส่วนใหญ่มีวันสองวันที่เจอ heatwave แล้วอากาศร้อนไปถึง 35℃ แต่ถ้ามีร่มไม้ก็ไม่ร้อนมาก อยู่ได้แบบไม่ต้องเปิดแอร์

ช่วงที่คิดว่าแย่จริงๆ คือต้นเดือนธันวาคมถึงมีนาคมที่เป็นหน้าหนาวของที่นี่แล้วบางวันอากาศลงมาแตะประมาณ 0℃ ซึ่งถ้าเป็นเมืองที่ไม่มีลมแรงเหมือนอย่าง Netherlands ก็คงไม่แย่เท่าไหร่แต่ที่นี่ลมแรงมาก 0℃ + ลม + ฝน นี่คือแย่สุดแทบไม่อยากออกไปข้างนอก (แต่คนที่นี่ก็ยังปั่นจักรยานกันเป็นปกติ!)

รวมๆ แล้วหน้าร้อนเป็นอะไรที่อากาศดีมาก ส่วนหน้าหนาวก็โหด แต่ก็ไม่มากขนาดทนอยู่ไม่ได้ แต่ก็คิดอยู่ว่าชอบอากาศประมาณสิงคโปร์มากกว่าที่นี่หน่อยนึง

จักรยาน #

ตอนวางแผนย้ายออกจากสิงคโปร์ อย่างนึงที่อยู่ในแผนคือเมืองที่จะย้ายมาต้องปั่นจักรยานง่าย และ Netherlands ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ปั่นง่ายจริงโดยเฉพาะนอกเมือง มีทางจักรยานโดยเฉพาะเกือบทั้งประเทศ ช่วงหน้าร้อนคือได้ปั่นแทบทุกวัน เพราะมืดช้า แต่ว่างปีที่ผ่านมาเกิดล้มช่วงหน้าร้อนเสียก่อน เลยปั่นได้น้อยกว่าที่คิด ไม่เช่นนั้นน่าจะปั่นได้เยอะกว่านี้

อย่างเดียวที่ไม่คิดว่าจะทำให้การปั่นจักรยานที่นี่ยากคือ ลม เพราะตอนปั่นอยู่สิงคโปร์ก็คิดว่าลมแรงบางช่วง แต่ก็ปั่นไม่ยากเท่าไหร่ แต่ที่นี่ลมโหดกว่าสิงคโปร์หลายเท่านั้น บางวันคือพัดแรง 40kph และมีลมกระโชกบางช่วงที่บางทีแรงถึง 70kph แล้วปัดจักรยานได้ ปั่นมาปีนึงเจอลมแรงแบบนี้ก็ยังไม่มั่นใจ ต้องหยุดหรือปั่นช้าลงทุกที โดยเฉพาะปั่นในเมือง ที่ไม่ค่อยอยากล้มลงกลางถนนเท่าไหร่

นอกจากลมอย่างอื่นถือว่าปั่นจักรยานที่นี่สนุกมาก (ยกเว้นหน้าหนาวที่บา ช่วงทางเป็นน้ำแข็ง ปั่นไปโดนเหมือนปั่นไปเจอกำแพง ต้องคอยหลบหรือไม่ก็ลงไปเข็นง่ายกว่า) ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ปั่น 100km ครบทุกเดือนแล้ว แต่ก็ยังปั่นได้ครบทุกเดือนอยู่ เดือนที่ยากที่สุดคงเป็นเดือนธันวาคม ที่ปั่นลุยอากาศต่ำกว่า 0℃ + ลม ปั่นเสร็จก็ป่วยต่ออีกสองอาทิตย์เลย ปีนี้ก็คิดว่าจะพยายามปั่นให้ครบอยู่ แต่มีประสบการ์ปั่นหน้าหนาว + อุปกรณ์ครบแล้ว หลังจากธันวาคมเจออากาศต่ำกว่า 0℃ อีกแต่ก็ไม่แย่เท่าครั้งแรกหละ

ปีใหม่ #

ปีใหม่ที่ผ่านมาเป็นอะไรที่ไม่คิดว่าจะเขียนถึงเพราะปกติแต่ละประเทศก็จะมี event เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง + จุดพลุใหญ่ครั้งเดียวจบ แต่อัมสเตอร์ดัม​ (หรือทั้ง Netherlands) ช่วงปีใหม่เป็นอะไรที่บ้ามาก เพราะที่นี่ไม่จุดพลุให้ดูสวยงาม ครั้งเดียว แต่จุดทั้งเมือง ทุกเมือง ทั้งประเทศเล่นแบบยาวมากตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเช้าวันถัดมา ติดกัน เรียกว่าแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ปีนี้คิดว่าคงหนีไม่อยู่ช่วงนั้นแล้ว

พิพิธภัณฑ์ #

อย่างนึงที่ชอบ Netherlands คือที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เยอะมากและมีแทบทุกเมืองและหลายแบบ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีคิดว่ายังไม่มีดีไม่เท่าที่ Berlin แต่หลายอย่างก็ทำให้รู้สึกอยากมาอีกหลายรอบอยู่ ที่ที่ชอบและคิดว่าน่าไปซ้ำก็มี

ที่ไปมีเยอะมาก แต่ชอบสุดก็คิดว่า 5 พิพิธภัณฑ์นี้ Navy กับ Luchtvaart นี่คิดว่าอยู่ อันดับ 1 กับ 2 ที่ชอบเลย (อาจจะเท่ากันด้วย) แต่ปีนึงแล้วก็ยังมีหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป (หรือไม่ก็ยังไม่รู้จัก) ปีนี้คงเก็บต่อให้ครบทั้งประเทศ

ฤดูดอกไม้ผลิ #

ช่วงเดือนมีนาคม - เมษายนปีที่แล้วเป็นการแนะนำให้รู้จักฤดูใบไม้ผลิที่ดีมาก เพราะอยู่สิงคโปร์/ไทยแล้วรู้สึกว่าไม่มีฤดูนี้ และไม่เข้าใจว่า ฤดูใบไม้ผลิน่าตื่นเต้นยังไง แต่พอได้ไปดูสวน Keukenhof สองรอบตอนที่เริ่มผลิช่วงปลายมีนาคม กับตอนที่ผลิเต็มที่ช่วงกลางเดือนเมษายน แล้วก็รู้สึกว่าสวนดอกไม้ที่นี่โหดมาก และสวยมากรู้สึกที่ไทยไม่เยอะและโหดเท่านี้

แต่ Netherlands มีมากกว่า Keukenhof โดยเฉพาะเมืองที่ Keukenhof อยู่ Leiden แค่ปั่นไปรอบๆ ก็จะเจอแปลงดอกไม้ที่ปลูกขายหลายแปลงมาก แค่แต่ละที่ต้องปั่นไกลเสียหน่อย แต่ก็คุ้มถ้าชอบดอกไม้

เลือกตั้งสภาจัดการน้ำ #

อย่างนึงที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำเวลาอยู่นอกประเทศคือ เลือกตั้งองค์กรในประเทศนั้น แต่ Netherlands มีองค์กรที่เรียกว่า Water council หรือ สภาจัดการน้ำที่มีอำนาจในการจัดเก็บภาษีน้ำ และจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับน้ำในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสร้างเขื่อน กันน้ำท่วมหรือจัดการคุณภาพน้ำให้ดื่มได้

พรรคการเมืองที่มีให้เลือกก็เป็นพรรคที่มีพรรคการเมืองหลักที่นี่สนับสนุน หรือก็เป็นพรรคการเมืองหลักนี่แหละที่มาลงสมัครด้วย ส่วนตัวยังไม่รู้รายละเอียดการเมืองที่นี่เท่าไหร่ รอบนี้เลยแค่ได้แต่ถามเพื่อน แต่เพื่อนบอกลองตอบคำถามเว็บ https://mijnstem.nl/waterschappen แล้วเลือกตามที่เว็บบอกก็ได้ ลองทำแล้วอ่านว่าพรรคจะทำอะไรบ้างก็ตรงกับที่อยากได้อยู่ วันเลือกตั้งก็เลยกาตามที่เว็บบอกมา

ก่อนวันเลือกตั้งรัฐบาลที่นี่ก็จะส่งจดหมายเป็นใบที่บอกว่าเรามีสิทธิในการเลือกสภาจัดการน้ำที่นี่นะ วันเลือกตั้งก็เอาบัตรนั้นไปที่หน่วย พร้อมบัตรผู้อยู่อาศัยที่นี่ไปเอาใบลงคะแนน ที่มีรายชื่อผู้สมัครกับรายชื่อพรรคให้เลือกเลย จากนั้นก็ไปที่ตู้ลงคะแนนที่มีดินสอสีแดงให้ระบายชื่อคนที่เราอยากเลือกแค่คนเดียว แล้วก็ไปหย่อนลงคะแนนเป็นอันเสร็จ

เลือกเสร็จจริงๆ ก็ไม่ได้ตามต่อเท่าไหร่ เพราะเลือกพร้อมกับตัวแทนจังหวัดแล้วพรรคชาวนาที่นี่ได้เสียงเยอะจากที่ไม่เคยได้เลย และตัวแทนจังหวัดสามารถเป็นตัวแทนไปเลือกวุฒิสภาต่อได้ แล้วพรรครัฐบาลที่นี่ปีที่แล้วพึ่งจะพยายามลดกาซไนโตรเจนด้วยการให้ชาวนาลดจำนวนปศุสั้ตว์ลงเป็นล้านตัวจนประท้วงกันทั้งประเทศ ปีนี้พรรครัฐบาลคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว

ปีนึงแล้วยังไงต่อ #

ส่วนตัวก็ยังชอบ Netherlands อยู่ หลายอย่างรู้สึกมันบ้าดี แต่เวลาเป็นอะไร ป่วย เจ็บตัว คนแปลกหน้าทั้งหลายก็คอยช่วยเหลือ ไม่ต้องห่วงว่าจะอยู่แล้วลำบากเท่าไหร่ ภาษีที่นี่แพงแต่ปลายปีพอได้เงินกลับมาเยอะกว่าที่คิดก็รู้สึกมันไม่ได้เยอะไปกว่าที่เคยต้องเสียไปมาก (แต่ปีนี้เงินเพิ่ม แถมอยู่ครบปีน่าจะต้องเสียเยอะกว่าเดิม)

ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนอะไรเกินไปกว่าปีหน้า รู้สึกแผนที่ตัวเองมีตอนนี้คือเที่ยว แผนปั่นจักรยานทั้งหลายก็ได้ทำไปเกือบหมดแล้ว ปัญหาส่วนตัวที่คิดว่ามานี่แล้วจะแก้ได้ ก็ยังแก้ไม่ได้และไม่คืบหน้าเท่าไหร่ ก็คงลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจออะไรที่ดีกว่านี้หละ

← Home